วิธีการดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อ
สำหรับผู้ป่วย
เมื่อเรารู้สึกว่าตัวเองมีอาการป่วยคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือพบผู้อื่นที่มีอาการมีไข้ขึ้น
สูง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ มีน้ำมูก ไอ และจาม ให้สันษิฐานว่าอาจได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัด
ใหญ่ซึ่งอาจเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์เก่าหรือสายพันธ์ใหม่ ซึ่งเราควรมีวิธีการดูแลและป้องกันตนเอง และผู้อื่น ด้วยหลัก 5 พ. ดังนี้
- พักเรียน – พักงาน : เมื่อเรารู้สึกตัว หรือพบว่ามีคนที่มีอาการไข้ขึ้นสูง ไอ จาม มีน้ำมูก และปวดศีรษะ ควรหยุดเรียน และลางานทันที เพื่อควบคุมวงจรการแพร่ระบาดของเชื้อไม่ให้แพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น จนกว่าจะพักฟื้นหายเป็นปกติ
- พบแพทย์ : หากมีประวัติการเดินทางกลับจากต่างประเทศควรไปพบทันทีที่มีอาการป่วย เพื่อดำเนินการรักษาอย่างถูกต้องตามอาการ เพื่อฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงดังเดิม ในกรณีที่ไม่ได้เดินทางอาจดูแลรักษาตัวเอง โดยปกติอาการจะดีขึ้นใน ๓ วัน หากไม่ทุเลาให้ไปปรึกษาแพทย์
- ใส่หน้ากาก : การใช้หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปยังคนอื่น จะเป็นแบบกระดาษใช้แล้วทิ้งหรือแบบผ้าที่เอามาซักแล้วใช้ได้ใหม่ก็ได้ ซึ่งสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่มีการติดต่อผ่านมาทางละอองจมูก น้ำลาย เสมหะ การไอและการจาม
- เพิ่มมารยาทการไอ-จาม: หากมีการไอ-จาม อย่าใช้มือป้องปาก เพราะเชื้อจะติดอยู่ที่มือ และง่ายต่อการแพร่เชื้อ เมื่อมีการจับสิ่งของหรือแตะต้องตัวผู้อื่น แต่ ให้ทุกคนพกผ้าเช็ดหน้าติดตัว เมื่อมีอาการไอ-จามทุกครั้งให้นำผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันละอองเชื้อไม่ให้กระจายไปสู่ผู้อื่น โดยหากไม่มีผ้าเช็ดหน้า ให้ใช้กระดาษษทิชชู่ หรือไอใส่แขนเสื้อท่อนบนของตัวเองแทน เชื้อไวรัสจะไม่กระจายไปที่อื่น นับเป็นการตัดวงจรการแพร่เชื้อได้ในระดับหนึ่ง
- พิถีพิถันในการล้างมือ : ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ สิ่งสำคัญพื้นฐานที่เราทุกคนต้องทำเป็นประจำอย่าให้ขาด คือ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ให้สะอาด โดยวิธีการง่าย คือ การเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านนิ้วและมือพร้อมถูสบู่เป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งนาที หรือร้องเพลง Happy Birthday จบ 2 จบ
การ เฝ้าระวังและดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมไปถึงโรคติดต่อทุกประเภท เป็นสิ่งที่สามารถควบคุมและป้องกันได้ หากเราทุกคนร่วมมือ ร่วมใจกันปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด โดยหลักของการป้องกันและดูแลดังกล่าวข้างต้น หากทุกคนใส่ใจนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง เชื่อว่าจะสามารถลดการแพร่เชื้อได้สูงถึงร้อยละ 80
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น